วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง



ครอบคลุมพื้นที่อำเภอนาทวี และ อำเภอสะเดา เขาน้ำค้างเป็นเขตหวง ห้ามกว่า 40ปี ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2โดยอยู่ในความยึดครองของผู้ก่อการร้ายโจรจีนคอมมิวนิสต์ (จคม.)เป็นบริเวณที่มีพื้นที่ภูมิประเทศเป็นถิ่นทุรกันดาร เทือกเขาสลับซับซ้อน ทำให้เป็นฐานปฎิบัติการใหญ่ที่สุดของโจรจีนคอมมิวนิสต์ ต่อมากรมป่าไม้มีการสำรวจพื้นที่เขาน้ำค้างและได้ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง เมื่อปี พ.ศ.2504อุทยานฯ มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์มาก พื้นที่ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบ มีไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้หลุมพอ ตะเคียน กฤษณา มังคะ สยาแดง เสือดำ เป็นต้น สัตว์ป่า เช่น สมเสร็จ กระจง อีเห็น นกเงือก นกหว้า เป็นต้น และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติศึกษาระบบนิเวศน์ บ้านพักและสถานที่กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ ได้แก่
 
น้ำตกวังหลวงพรหม  อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 450 เมตร เป็นน้ำตกเล็ก ๆ มีแอ่งน้ำลึกสามารถเล่นน้ำได้

น้ำตกโตนลาด  อยู่ด้านหลังจากที่ทำการอุทยานฯ 500 เมตร  เป็นน้ำตกสูง มีความลาดชันเล็กน้อย ลานเหนือน้ำตกเป็นลานหินกว้าง สามารถเล่นน้ำได้

น้ำตกโตนลาดฟ้า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 2 กิโลเมตร  เป็นน้ำตกที่มีหน้าผาใหญ่ สูง 2 ชั้น เมื่อแหงนหน้าขึ้นดูน้ำตกเหมือนมองดูดาดฟ้า 

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นายอำเภอขรรค์ชัย

นายอำเภอคนที่ 16 - นายขรรค์ชัย กัมพลานนท์ เป็นบุตรนายสาย นางส้มจีน กัมพลานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2461 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สำเร็จการศึกษาธรรมศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง

ความสำคัญ และเรื่องราวซึ่งเป็นที่กล่าวขานของนายอำเภอคนนี้กระทั่งมีการสร้างอนุสรณ์สถานเชิดชูเกียรติไว้นั้น เนื่องจาก ในช่วงที่ท่านเป็นนายอำเภอสะเดานั้น เป็นช่วงเวลาที่โจรผู้ร้ายและโจรก่อการร้าย(คอมมิวนิสต์) ชุกชุมมาก ท่านในฐานะ ผู้นำหรือผู้ปกครองต้องใช้ความสามารถและความพยายามในการบริหารงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ทั้งการออกไปให้ขวัญกำลังใจกับประชาชน และอยู่มาคืนหนึ่ง ท่านก็ออกมาไปตามท้องที่เพื่อพบปะประชาขนตามปกติ มีประชาชนคนหนึ่งถามว่า ไม่เกรงอันตรายหรือที่ออกมายามค่ำคืนเช่นนี้ ท่านตอบว่าหมอดูทำนายท่านว่าจะเสียชีวิตเมื่ออายุ 32 ปี แต่ตอนนี้ท่านอายุ 34 ปีแล้ว แต่ยังไม่เสียชีวิตซึ่งถือว่า 2 ปีหลังเป็นกำไรแล้ว จึงไม่กลัวตาย

และหลังจากท่านพูดประโยคนี้อีกประมาณ 3-4 ต่อมาท่านก็เสียชีวิต

14 ธันวาคม 2495 คือวันเสียชีวิตของท่าน ระหว่างที่ออกไปพร้อมคณะเพื่อไปรอรับข้าราชการจากประเทศมาเลเซียที่กำหนดมาติดต่อประสานงานกับฝ่ายไทย ที่บริเวณพรมแดนด่านนอก ขณะที่รถแล่นไปถึงควนไม้ดำ ที่ตั้งด่านมาเลเซียในปัจจุบัน ก็ได้ถูกโจรคอมมิวนิสต์ซุ่มโจมตี ท่านเสียชีวิตในช่วงระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

และด้วยความเสียสละ และผลงานที่ท่านทำให้กับสะเดาอย่างมากมาย ทำให้ประชาชนชาวสะเดาในร่วมกับสร้างอนุสรณ์สถานซึ่งเป็นสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาไว้ให้ โดยได้ตั้งชื่อว่าโรงเรียนสะเดา ขรรค์ชัย กัมพลานนท์อนุสรณ์พร้อมมีรูปปั้นของท่านประดับไว้ และ ทุกวันที่ 14 ธันวาคมของทุกปีก็จะมีงานรำลึกถึงท่านที่เรียกว่างาน วันขรรค์ชัยรำลึก

ที่มา : หนังสือมรดกเมืองสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จัดทำเนื่องในสัปดาห์อนุรักษ์มรดกไทย จังหวัดสงขลา 2-8 เมษายน 2533

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วัดถ้ำเขารูปช้าง



วัดถ้ำเขารูปช้าง
วัดถ้ำเขารูปช้าง เป็นสถานที่เคารพบูชา มีอยู่ 3 ถ้ำ สวยงามมาก มีน้ำไหลลอดถ้ำ และพระพุทธรูปเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาท่อง เที่ยว เดือนหนึ่งประมาณ 3,000-4,000 คน และมีอาหารเจจัดไว้ให้รับประทาน สำหรับผู้ที่ประสงค์จะรับประทาน วัดถ้ำเขารูปช้างตั้งอยู่ที่บ้านหน้าถ้ำ หมู่ที่ 6 ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

อ่างเก็บน้ำคลองสะเดา



        
          คลองสะเดา อยู่ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นลุ่มน้ำสาขาของคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำ ดิบที่ใช้ในกิจการประปาเพียงแห่งเดียวของ อ.หาดใหญ่ ในปัจจุบันแต่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากร การเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ และสังคมการอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวการค้าและอื่น ๆ ทำให้ความต้องการใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
              เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2530 คณะรัฐมนตรีมีมติและมอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษา ความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียดด้านวิศวกรรมของโครงการเขื่อนสะเดาและในวันที่ 14 กันยายน 2531 กรมชลประทานได้ลงนามสัญญาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ทีม คอลซัลติ้งเอ็นจิเนียร์ จำกัด และบริษัท นิปปอน เดเอะ จำกัด ให้ร่วมดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดของโครงการ ๆ โดยใช้เงินกู้จากธนาคารเอเชียและเงินสมทบจากรัฐบาลไทย

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ผลิตภัณฑ์ตำบล


ผลิตภัณฑ์ดอกไม้จันทน์ จากชุมชนหมู่บ้านตัวอย่างและชุมชนประชาร่วมใจ ใช้สำหรับตกแต่งหน้าศพและใช้ในพิธีฌาปานกิจศพ สนใจติดต่อ กลุ่มคณะกรรมการแม่บ้านชุมชนหมู่บ้านตัวอย่าง คุณจิตรา ฉัตรเฉลิมวุฒิ 6 ถ.ทวีเกษตร อ.สะเดา จ.สงขลา 90120 หมายเลขโทรศัพท์ 08-7441-2626,08-9294-7027 และ คณะกรรมการแม่บ้านชุมชนประชาร่วมใจ คุณชอ้อน ปรเมษฐานุวัฒน์ 63 ซ.เอี่ยมใจ2 ถ.กาญจนวนิชย์ อ.สะเดา จ.สงขลา 90120 หมายเลขโทรศัพท์ 08-7441-1093

ภาพเมืองสะเดาในอดีต










ประวัติความเป็นมาเมืองสะเดา

"เมืองวีรบุรุษนายขรรค์ชัย สุดถิ่นใต้ที่สงขลา ศูนย์การค้าชายแดนใต้ หลากหลายน้ำตกงาม คือนามผู้คน ยึดหมั่นศาสนา ประเพณี "
สะเดา แต่เดิมเป็นตำบลเล็กๆ ขึ้นกับไทรบุรี มีชื่อตามภาษามลายูว่า สะดาห์ หรือ ซีดาร์ เป็นเส้นทางที่พระยาไทรบุรี เดินทางผ่านเพื่อนำต้นไม้เงินต้นไม้ทอง ส่งเป็นเครื่องราชบรรณาการไปยังกรุงเทพฯ ในสมัยรัชการที่4 (พ.ศ.2405) ได้โปรดให้สร้างทางจากสงขลาไปไทรบุรี และ ต่อมาสมัยรัชการที่5 ได้เสด็จประพาสเมืองไทรบุรี นับตังแต่นั้นมา ถนนหนทาง จึงได้ปรับปรุงขึ้นให้ดีขึ้นตามลำดับ
ในพ.ศ.2452 ไทรบุรี ได้ตกเป็นของอังกฤษ จึงมีการปักปันเขตแดนใหม่ โดยเขตแดนเมืองสงขลา ขยายลงทางใต้อีก16กิโลเมตร จากบ้านหัวถนนถึงควนไม้ดำ หรือเทือกเขาบูเกตกายูอีตำ(บ้านไทย-จังโหลน) ปัจจุบัน ซึ่งเป็นจุดที่เราได้สูญเสียยอดนายอำเภอนักสู้ และนักพัฒนาไป นาม " นายอำเภอขรรค์ชัย"

การแข่งขันกีฬามหกรรมพื้นบ้านกีฬาสัมพันธ์ ประจำปี 2554


การแข่งขันกีฬามหกรรมพื้นบ้านกีฬาสัมพันธ์ ประจำปี 2554
"สร้างสัมพันธ์ด้วยไมตรี สร้างสามัคคีด้วยกีฬา"
           เทศบาลเมืองสะเดาขอเชิญประชาชนทุกท่าน ร่วมชมและเชียร์กีฬามหกรรมพื้นบ้านชุมชนสัมพันธ์ประจำปี 2554 ซึ่งจะได้พบกับขบวนพาเหรดจากทั้ง 18 ชุมชน ฟุตบอลสัมพันธ์ วิ่งเสียบ ชักเย่อ ว่งเรือบก วิ่งผลักกระสอบ วิ่งผลัดฮูลาฮูบ โยนบอล และอีกมากมาย สามารถร่วมชมและเชียร์ได้ ในวันเสาร์ ที่ 10 กันยายน 2554 ณ สนามกีฬากลางเทศบาลเมืองสะเดา

นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ เดินทางเข้าช่วง วันชาติ และวันฮารีรายอ ผ่านด่านพรมแดนสะเดา

ด่านพรมแดนสะเดา นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ เดินทางเข้าช่วง วันชาติ และวันฮารีรายอ กว่า 3 หมื่นคน คาดว่าโรงแรมในอำเภอหาดใหญ่ เต็มหมดทุกแห่ง รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงของภาคใต้ด้วย
      วันนี้ ที่ 28 สิงหาคม 2554 ที่ ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อพักผ่อนเฉลิมฉลอง วันชาติ หรือวันประกาศเอกราชของประเทศมาเลเซีย และวันฮารีรายอ ซึ่งเป็นวันฮารีรายอ เป็นวันสำคัญทางศาสนาชาวมุสลิมทั่วโลก
       ทำให้บรรยากาศบริเวณ ด่านพรมแดนสะเดา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติหลายศาสนา ทำให้นักท่องเที่ยว ชาย – หญิง และเด็ก จำนวนมากต้องยืนรอคิวนานเพื่อประทับหนังสือเดินทาง
       เจ้าหน้าที่ ตม.ต้องเปิดตู้ครบทุกตู้เพื่อตรวจสอบหนังสือเดินทาง ป้องกันนักท่องเที่ยวที่ถูกขึ้นแบ๊คลิส ลักลอบเดินทางเข้าประเทศ และบริการประทับตราหนังสือเดินทาง โดยไม่มีเวลาพัก เจ้าหน้าที่ ตม. บอกว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากเป็นพิเศษ ไปถึงวันที่ 30 – 31 ส.ค. ซึ่งเป็นวันฮารีรายอ และวันชาติประเทศมาเลเซีย คาดว่ามากกว่า 3 หมื่นคน
      
      ส่วน จนท.ศุลกากร ด่านพรมแดนสะเดา ก็ต้องออกบริการ และตรวจค้นรถยนต์ กระเป๋าเดินทาง ของนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ ซึ่งอาจจะมีกลุ่มบุคคลถือโอกาสนำสิ่งผิดกฎหมายปะปนเข้ามากับนักท่องเที่ยวได้